เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ห้องพลอยไพลิน โรงแรมกรีนเลค รีสอร์ท อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พล.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35) นางจิตติวรรณ เอมมณีรัตน์ อธิบดีอัยการภาค 5 นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย ที่ปรึกษา ป.ป.ส. นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ ผอ.ปปส.ภ.5 นายศราวุธ ภักดี ผอ.ปปส.ภ.6 นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผบก.ภ.จว.ตาก พ.อ.กิดากร จันทรา รอง ผบ.กล.ผาเมือง และ พ.อ.ไมตรี ชูปรีชา รอง ผบก.กกล.นเรศวร ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา หลังรัฐบาลประกาศพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน 11 อำเภอ ของจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย ประกอบด้วยอำเภอเวียงแหง เชียงดาว ฝาง ไชยปราการ แม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอแม่จัน แม่ฟ้าหลวง แม่สาย เชียงแสน เวียงแก่น และเชียงของ จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลาร่วม 6 เดือน
 

พล.อ.นฤทธิ์ กล่าวว่า ผลการปฏิบัติการสกัดกั้น มีเหตุการณ์สำคัญ 74 เหตุการณ์ โดยมีการปะทะกับกลุ่มขบวนการ 30 ครั้ง ตรวจยึด/จับกุม 40 ครั้ง และขยายผลยึดทรัพย์ 4 ครั้ง ตรวจยึดยาบ้ารวม 129 ล้านเม็ดเศษ ไอซ์ 1,890 กิโลกรัม เฮโรอีน 249 กิโลกรัม ฝิ่นดิบ 188 กิโลกรัม จับกุมผู้ต้องหา 1,507 ราย กลุ่มขบวนการเสียชีวิต 25 ศพ ในปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายที่จะเร่งแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในทุกพื้นที่ชายแดนของประเทศ ให้เห็นผลและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“ในห้วงที่ผ่านมามีการจับกุมยาบ้าได้เป็นจำนวนมากในพื้นที่รับผิดชอบ อีกทั้งยังพบว่ากลุ่มขบวนลักลอบขนยาเสพติดใช้พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และพื้นที่ข้างเคียงเป็นทางผ่าน เพื่อส่งไอซ์และเฮโรอีนออกไปต่างประเทศ หรือประเทศที่ 3 มากขึ้น และมีแนวโน้มว่าครึ่งปีหลังจะเพิ่มมากขึ้น โดยประเมินจากการจับกุมไอซ์ได้กว่า 2 ตัน และยาบ้ากว่า 30 ล้านเม็ดในประเทศเมียนมา จึงเชื่อว่าสถานการณ์จะรุนแรงมากขึ้น วันนี้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่สำคัญเร่งด่วน และพื้นที่อนุมัติเพิ่มเติม ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค 5, ตำรวจภูธรภาค 6 ตำรวจปราบปรามยาเสพติด กองกำลังผาเมือง กองกำลังนเรศวร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน และตาก ปปส.ภาค 5 และ ปปส.ภาค 6 ตลอดจนที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศและ อุตสาหกรรม ร่วมกันพิจารณาหารือ ถึงแนวทางในการขับเคลื่อนงานด้านการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด ได้แก่การเพิ่มกำลังในพื้นที่ หรือการเพิ่มความถี่ในการปฏิบัติการ ซึ่งนบ.ยส.35 จะต้องจัดส่วนแยกออกไปดำเนินการ ประสานการทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้ง 6 จังหวัด18 อำเภอ ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล”

พล.อ.นฤทธิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นบ.ยส.35 ยังมุ่งเน้นการประสานและหารือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการส่งหมายจับของผู้ต้องหา เพื่อขอความร่วมมือในการส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับมารับโทษ ซึ่งจะต้องขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน ให้ประโคมข่าวผู้ต้องหาหลบหนีข้ามแดน ก็จะเป็นการกดดันหน่วยงานที่รับผิดชอบในประเทศเพื่อนบ้านได้เร่งรัดและให้ความสำคัญ จากกระแสสื่อสังคมอีกทางหนึ่ง เพราะแห่งผลิตยังคงเป็นกลุ่มเดิมในพื้นที่รัฐฉานเหนือ 6-7 แห่ง ซึ่งเป็นพื้นที่พิเศษที่สามารถทำการค้าแบบเสรี เพราะไม่ใช่พื้นที่สู้รบ ส่วนแหล่งพักและกระจายยาเสพติดตามแนวชายแดน 2-3 แห่ง โดยมียาบ้าเตรียมทะลักเข้าพื้นที่กว่า 70 ล้านเม็ด ตามความต้องการที่เพิ่มมมากขึ้น

“สิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง คือ การนำเยาวชนที่มีอายุน้อยเข้ามาเป็นมือลำเลียงเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งรับมือรูปแบบการลำเลียงที่มาทั้งการรถตู้เย็น รถปูน รถมูลนิธิ บิ๊กไบค์ และรถที่ติดตราสื่อมวลชน รวมทั้งการคมนาคมที่สะดวกถนนเข้าถึง ง่ายต่อการลำเลียงยาเสพติด เส้นทางระยะสั้นๆ ทางน้ำ โดยเน้นเพิ่มน้ำหนักและจับตาลำน้ำโขงมากขึ้น” พล.อ.นฤทธิ์ กล่าว

นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ ผอ.ปปส.ภ.5 กล่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มีมติเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 เห็นชอบให้เพิ่มพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในพื้นที่ชายแดนภาคเหนืออีก 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปาย และปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน และอำเภอแม่สอด อำเภอพบพระ จังหวัดตาก รวมเป็น 18 อำเภอ 6 จังหวัด ซึ่งภายใน 90 วันนับจากนี้ เจ้าหน้าที่จะเน้นการปราบปรามขบวนการในทุกช่องทาง และอาศัยการสังเกตพฤติการณ์ของบุคคลที่จับได้ว่าเพื่อเสพหรือเพื่อค้าและจำหน่าย ไม่ว่าจะครอบครองยาบ้า 5 หรือ 1 เม็ด

นายศราวุธ ภักดี ผอ.ปปส.ภ.6 กล่าวว่า พื้นที่ภาค 6 มีภูมิประเทศติดต่อกับภาค 5 จากการประเมินสถานการณ์ทำให้ต้องจับตาพื้นที่ด้านอำเภอแม่สอด อำเภอพบพระ จังหวัดตาก อย่างเข้มข้น พร้อมเฝ้าระวังพื้นที่สู้รบในเมียนมาไปด้วย

พ.อ.กิดากร จันทรา รอง ผบ.กล.ผาเมือง กล่าวว่า ช่วงนี้พบว่ามีการปะทะกันมากขึ้น เนื่องจากจำนวนยาเสพติดมีปริมาณมากขึ้น ทำให้กลุ่มขบวนการที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มว้าเพิ่มกำลังและอาวุธิติดตัวมาคุ้มกันการลำเลียงยาเสพติดมากขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่เน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นหลัก