นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.กระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ จ.น่าน มอบนโยบายพืชกระท่อมสู่เศรษฐกิจชุมชน

เมื่อวันที่ : 13 พ.ย. 2021 17:17
หน่วยงาน : สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5
42 ครั้ง

1392702.jpg1392703.jpg
 

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 เวลา 16.00 น. ที่ โรงเรียนปัว อ.ปัว จ.น่าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในงาน การสร้างการรับรู้นโยบายพืชกระท่อมสู่เศรษฐกิจชุมชน พร้อมด้วย นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส., พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 5, นายนิวัฒน์ งามธุระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน, นายวิศิษฐ์ ทวีสิงห์ ปลัดจังหวัดน่าน, นายคุณดร งามธุระ คณะที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม, พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตตระกูล ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดน่าน, นายสมเกียรติ อาจสังข์ นายอำเภอปัว, นายประกวด พายัพสถาน ผู้อํานวยการโรงเรียนปัว และประชาชน 700 คนร่วมงาน โดยมีมาตรการตรวจ ATK ทุกคนก่อนเข้างาน

    นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการยื่นคำร้อง ฟ้องคดี ต่อสู้คดี และบังคับคดี สามารถยื่นขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมได้ที่ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข หรือสำนักงานยุติธรรมจังหวัดทั่วประเทศ  หากใครถูกกระทำ ไม่ใช่ฝ่ายผิด เรามีเงินช่วยเหลือทั้งกรณีเสียชีวิตและบาดเจ็บ นอกจากนี้เราออกกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่มีผลบังคับใช้วันที่ 9 ธันวาคม 2564 และสำหรับคนที่เป็นหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กระทรวงยุติธรรมจะช่วยไกล่เกลี่ย โดยวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 จะทำข้อตกลงระหว่าง กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกับ กยศ. ซึ่งที่ผ่านมาครู อาจารย์ของเราไปค้ำให้นักเรียนนักศึกษา จนมีปัญหาถูกฟ้องร้อง คนค้ำประกันปวดหัว เราจะช่วยไกล่เกลี่ยให้ กระทรวงยุติธรรมจะเป็นเจ้าภาพในการช่วยไกล่เกลี่ย และกรมบังคับคดีจะช่วยในการให้คำปรึกษาในส่วนของผู้ที่ถูกฟ้องดำเนินคดี

    นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนได้แก้ไขกฎหมายให้พืชกระท่อมถูกกฎหมาย ซึ่งก่อนที่จะมีการปลดล็อกกระท่อมให้ถูกกฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ช่วยร่างกฎหมายจนปลดล็อกได้สำเร็จ ซึ่งในช่วงก่อนที่จะปลดล็อกได้มีหมู่บ้าน 135 หมู่บ้านที่นำร่อง ซึ่งทาง ป.ป.ส.ได้อนุญาตให้ปลูกบ้านละ 3 ต้น พืชกระท่อมขณะนี้ราคากิโลกรัมละ 300-500 บาท 1 ต้นจะเก็บเกี่ยวใบได้ประมาณ 216 กิโลกรัมต่อปี หากปลูกบ้านละ 3 ต้น จะได้ปีละ 648 กิโลกรัม หากตีเป็นเงินจะได้ประมาณ 194,400  บาทต่อปี และหากปลูก 1 ไร่จะได้ประมาณ 25 ต้น ผลผลิต 5,400 กิโลกรัม เป็นเงินประมาณ 1,620,000 บาท และขณะนี้พืชกระท่อมสามารถนำไปทำผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย เช่น อาหาร ยารักษาโรค อาหารเสริม เวชสำอางค์ ซึ่งมีมูลค่ารวมในตลาดมากถึง 1.459 ล้านล้านบาท ดังนั้นการปลูกพืชกระท่อม หากแห่กันปลูกเหมือนพืชอื่นๆจะทำให้ราคาตกต่ำ จากราคากิโลกรัมละ 300 บาทอาจจะเหลือแค่ 20-30 บาทเท่านั้น เราไม่อยากให้กระท่อมออกมารูปแบบนี้ แต่หากเรามีนวัตกรรมใหม่ๆ มีการสร้างงานวิจัย และอย่างมอร์ฟีนที่ประเทศมหาอำนาจขายกัน กระท่อมมีสารที่ช่วยระงับการปวดได้ดีกว่ามอร์ฟีนหลายเท่า ซึ่งหากเราวิจัยและพัฒนาได้จะเพิ่มมูลค่าของพืช ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งสร้างงานวิจัยต่างๆออกมาอย่างเร่งด่วน

    จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้ให้ประชาชนได้ถามถึงข้อสงสัยต่างๆ และมอบอุปกรณ์กีฬา ให้กับ ผอ.โรงเรียนปัว และคณะนักเรียน มอบกระท่อมพันธุ์ก้านแดงหางกั้ง 100 ต้นให้กับตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกกระท่อม และมอบชุด PPE 240 ชุดให้กับประธาน อสม.อ.ปัว และได้เดินทางไปปลูกต้นกระท่อมต้นแรกของ จ.น่าน ที่ ต.งอบ อ.ทุ่งช้าง และได้พบปะพูดคุยกับเกษตรกร

1392695.jpg1392697.jpg1392699.jpg

YouTube TikTok search download
Q&A FAQ