วันที่ 11 เม.ย. 57 เวลา 13.00 น. พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานแถลงข่าวจับกุมแก๊งค้ายาไอซ์ข้ามชาติ จำนวน 6 คน จาก 4 ประเทศ พร้อมของกลางเป็นยาไอซ์ 3.5 กิโลกรัม โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้สืบสวนติดตามเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติกลุ่มนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีพฤติการณ์ในการสั่งซื้อยาไอซ์จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ลักลอบส่งผ่านบริษัทส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ เพื่อนำมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวใน สร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์และชื่อเสียงของประเทศไทยเป็นอย่างมาก
หลังจากที่ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้สืบสวนติดตามเครือข่ายนี้มาเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง จึงทราบว่าในช่วงเทศสงกรานต์นี้ จะมีการลักลอบส่งยาไอซ์เข้ามาในประเทศไทยเพื่อจำหน่ายตามสถานที่ ท่องเที่ยวต่างๆ ใน กทม. ทั้งซอยนาน ถนนข้าวสาร และซอยคาวบอย โดยส่งมาจากเมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านทางบริษัท ทีทีไอ อินเตอร์จำกัด เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. จึงได้เฝ้าติดตามมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา ได้มี นายนานัง ซูเฮนดร้า ชาวอินโดนีเซีย เดินทางมาที่บริษัทฯ เพื่อขอรับสินค้า เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและตรวจค้น พบยาไอซ์น้ำหนัก 530 กรัม ซุกซ่อนมาในแจกันแก้ว 2 ใบ จึงได้จับกุม และสอบสวนขยายผลจนทราบว่า จะนำยาไอซ์จำนวนดังกล่าวไปส่งให้กับเครือข่ายอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งพักอยู่ที่ โรงแรมธาราการ์เด็นท์ ซอยรามคำแหง 164 แขวงและเขต มีนบุรี กรุงเทพฯ จึงได้ติดตามไปตรวจค้นและสามารถจับกุมผู้ที่ อยู่ในเครือข่ายดังกล่าวได้เพิ่มอีก 5 คน เป็น ชาวอินโดนีเซีย 2 คน ไนจีเรีย 1 คน ไนเจอร์ 1 คน และฟิลิปปินส์อีก 1 คน
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ได้แก่
1. นายนานัง ซูเฮนดร้า ชาวอินโดนีเซีย อายุ 37 ปี
2. นางอีติ โรเฮติ อาเซป เจลานี ชาวอินโดนีเซีย อายุ 38 ปี
3. นางฮาบีบะ ชาวอินโดนีเซีย อายุ 57 ปี
4. น.ส. อาคิโน คามิลเล แม ชาวฟิลิปปินส์ อายุ 29 ปี
5. นาย โอโกเล่ ฟรานซิส อีเซอู ชาวไนจีเรีย อายุ 35 ปี
6. นายฮาสซาน มามัน (Mr Hassane Maman) อายุ 32 ปี ชาวไนเจอร์
จากการตรวจค้นห้องพัก พบยาไอซ์ที่ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทางในห้องพักของผู้ต้องหาอีก 3 กิโลกรัม รวมเป็นของกลางยาไอซ์หนัก 3.53 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังผงแป้งสีขาวบรรจุอยู่ในถุงยางอนามัยอีก 49 ก้อน สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าจะนำยาไอซ์ทั้งหมดไปจำหน่ายในช่วงเทศสงกรานต์ ตามแหล่งท่องเที่ยวในกทม. โดยจะมีนักท่องเที่ยวต่างๆ เหล่านั้น เดินทางมาท่องเที่ยวและหาซื้อยาไอซ์ เพื่อนำไปเสพตามที่พักทั้งบริเวณซอยนาน ถนนข้าวสาร และซอยคาวบอย
ส่วนถุงแป้งจำนวน 49 ก้อนดังกล่าว ผู้ต้องหาให้การว่า นำมาใช้ในการฝึกซ้อมเพื่อกลืนหรือซุกซ่อนไว้ในบริเวณร่างกายส่วนต่างๆ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจพบของเจ้าหน้าที่ในขณะเดินทางผ่านจุดตรวจต่าง โดยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ยังพบบัญชีรายชื่อของคนไทยและชาวต่างชาติอีก 12 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็นผู้ที่กลุ่มผู้ต้องหาได้ชักชวนให้มาฝึกซ้อมการกลืนก้อนผงแป้งดังกล่าว ก่อนที่จะส่งตัวไปที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และนำยาไอซ์ซุกซ่อนกลับเข้ามาขายในประเทศไทยต่อไป การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดในข้อหา มียาเสพติดให้โทษ ประเภท1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มีอัตราโทษสูงสุดประหารชีวิต
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า "การจับกุมในครั้งนี้ ถือเป็นการทลายเครือข่ายค้ายาไอซ์ข้ามชาติรายสำคัญ ซึ่งล่าสุดมีแผนที่จะนำยาไอซ์เข้ามาจำหน่ายในช่วงสงกรานต์ ที่มีชาวต่างชาติและคนไทยเข้ามาท่องเที่ยว และร่วม กิจกรรมกันมากบริเวณซอยนาน ถนนข้าวสาร และซอยคาวบอย หลังจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. จะได้ประสานกับ สำนักงาน ป.ป.ส. ประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไนจีเรีย และไนเจอร์ เพื่อขยายผลและติดตามยึดทรัพย์กับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
"สำหรับการประชุม ป.ป.ส. อาเซียนที่จะมีขึ้น จะมีการหยิบยกเครือข่ายข้ามชาติรายนี้ เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม เพื่อร่วมกันหาทางป้องกันและสกัดกั้นไม่ให้มีการส่งยาไอซ์ผ่านทาบริษัทขนส่งสินค้าและ พัสดุภัณฑ์ได้อีก โดยจะเชิญ เลขาธิการ ป.ป.ส. จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าร่วมประชุม เพื่อรับทราบและพิจารณาหาทางป้องกันและปราบปรามจับกุมอย่างเข้มงวด รวมทั้งปัญหายาบ้า และยาเสพติดชนิดอื่นๆ ด้วย" พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าว