เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2558 เวลา 10.30 น. นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายณรงค์ รัตนานุกูล ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท. เรวัช กลิ่นเกษร ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.กษิดิศ หลักกรด  ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง และนายศิรินทร์ยา สิทธิชัย รองเลขาธิการ ป.ป.ส นายสิทธิศักดิ์ กัลป์ยาณประดิษฐ์ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด นายวิชัย ไชยมงคล ผอ.สำนักงาน ปปส.ภาค 5 ร่วมแถลงข่าวผลปฏิบัติการตามแผนปฏิบัติการ "แม่น้ำโขงปลอดภัย" พร้อมผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ลักลอบนำเข้าและจัดจำหน่ายไปให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ของกลางยาเสพติด ยาบ้า 2.3 ล้านเม็ด ไอซ์ 42 กิโลกรัม เฮโรอีน 36 กิโลกรัม และทรัพย์สินอีกจำนวนมาก ณ ศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย ต.ช้างเผือก อ.เมือง  จ.เชียงใหม่   

   สืบเนื่องจากการประสานงานการข่าวระหว่างเจ้าหน้าที่ประสานงาน 4 ประเทศในโครงการแม่น้ำโขงปลอดภัย โดยได้ร่วมกันสืบสวนข่ายงานการค้ายาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ลักลอบนำเข้าและจำหน่ายยาเสพติดให้กลุ่มการค้ายาเสพติดในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศไทย มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้าหน้าที่ทหาร   กองกำลังผาเมือง ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นเครือข่ายเป้าหมายการสืบสวนข่ายงานดังกล่าวจำนวน 5 คน ได้แก่
 (1) นายวีรวัฒน์  อุดมโรจนกุล ที่อยู่ 421 ม.5 ต.โป่งน้ำร้อน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
 (2) นายสันติ คำพิงชัย ที่อยู่ 68/2 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
 (3) นายณัฐพงศ์ สุวรรณ์ ที่อยู่ 108/1ม.3 ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
 (4) นายจะเพลอะ สาแงะ ที่อยู่ 328 ม.8 ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงใหม่
 (5) นายปะโล ย่ายี๋ ที่อยู่ 170 ม.21 ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
พร้อมของกลาง ยาบ้า 1.5 ล้านเม็ด ไอซ์ 39 กิโลกรัม โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่พื้นที่ อ.สันกำแพง , อ.เมืองเชียงใหม่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่, และพื้นที่ อ.แม่สรวย , อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ต่อเนื่องกันและต่อมาในวันที่ 25 กันยายน 2558 เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนขยายผล โดยสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจค้นในบริเวณป่าละเมาะข้างถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดใช้เป็นจุดส่งมอบยาเสพติดกันเป็นประจำ ลึกเข้าไปในป่าประมาณ 300 เมตรพบหลุมที่ขุดลึกประมาณ 1 เมตร จำนวน 3 หลุม ซุกซ่อนยาบ้า 856,000 เม็ด ไอซ์ 3 กิโลกรัม และเฮโรอีน 103 แท่ง น้ำหนักประมาณ 36 กิโลกรัม โดยมีใบไม้กิ่งไม้ปิดทับปากหลุมอยู่ รวมตรวจยึดยาบ้า 2,356,000 เม็ด ไอซ์ 42 กก. เฮโรอีน 36 กก.และได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินเป็นรถยนต์จำนวน 7 คัน ได้แก่ หมายเลข ขค-6381 ชม , ม-3344 กทม.(ป้ายแดง) , ฬข-575 ชร , บธ-5856 ชม , กย 2744 ชร , กม-256 ชร และ กพ-4853 ชร รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซีบีอาร์ 1 คัน , สร้อยทองคำ 3 บาท พร้อมอายัดบ้านและที่ดินเลขที่ 421 ม.5 ต.โป่งน้ำร้อน อ.ฝาง         จ.เชียงใหม่ , ที่ดินเปล่าเนื้อที่ 2 งาน พื้นที่ อ.สารภี เชียงใหม่ และ ร้านวีรวัฒน์การเกษตร เลขที่ 93/2 ม.4 ต.แม่ทะลบ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ,บ้านเลขที่ 138/3 ม.8 ต.สันต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ บ้านเลขที่ 167/7 ม.5 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เงินสดจำนวน 750,000 บาท อายัดเงินในบัญชี 1.1 ล้านบาทรวมทรัพย์สินที่ตรวจยึดประมาณ 20 ล้านบาท นอกจากนี้ยังตรวจพบบัญชีที่ใช้ในการโอนเงินค่ายาเสพติดจำนวน 76 บัญชีซึ่งจะได้ทำการตรวจสอบต่อไป
     นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า "ที่ผ่านมาศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย(Safe Mekong Coordination Center) เป็นศูนย์ประสานการข่าวและการปฏิบัติการระหว่าง 4 ประเทศ ได้แก่ จีน ลาว เมียนมา และไทย รวมทั้งเป็นศูนย์ประสานการปฏิบัติกับหน่วยร่วมปฏิบัติในประเทศไทย ได้เริ่มโครงการระยะที่ 2 ต่อจากประเทศจีนมาตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2558 ในส่วนของประเทศไทยสามารถจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ 356 คดี ผู้ต้องหา 418 คน ยาบ้าประมาณ 17 ล้านเม็ด ไอซ์ 121 กก. เฮโรอีน 98 กก. ตรวจยึดทรัพย์สิน 652 ล้านบาท และในภาพรวมของทั้ง 4 ประเทศ สามารถจับกุมได้ 7,329 คดี ผู้ต้องหา 7,923 คน ยาบ้า 104 ล้านเม็ด ไอซ์ 287 กก. เฮโรอีน 352 กก. นอกจากนี้ยังยึดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดอีกเป็นจำนวนมาก และในวันนี้เป็นการทำลายเครือข่ายและโครงสร้างการค้ายาเสพติดระดับประเทศในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ประสานงานของทั้ง 4 ประเทศได้ร่วมสืบสวนและขยายผลการจับกุม ทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งเครือข่าย และยาเสพติดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมทั้งตรวจยึดทรัพย์สินของเครือข่ายซึ่งเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยงในวงจรทางการเงินของเครือข่ายการค้ายาเสพติด ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญยุทธศาสตร์หนึ่งในการปราบปรามยาเสพติด